วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เยือนถิ่นอีสานเหนือ กลับมาพระธาตุพนมอีกครั้ง

เยือนถิ่นอีสานเหนือ กลับมาพระธาตุพนมอีกครั้ง
อยากชวนไปสักการะพระธาตุพนม แต่กลัวเบื่อกันแย่ถ้าจะเล่าเรื่องซ้ำถึงประวัติพระธาตุ การบูรณะหลายครั้งจนผิดแบบแล้วถล่ม เรื่อยมาจนรูปแบบศิลปะที่ปรากฏบนองค์พระธาตุหลากหลายจนชวนสับสนไม่รู้เป็นยุคไหนต่อยุคไหน
เปลี่ยนเป็นขอแอบเล่าเรื่องส่วนตัวหน่อยได้ไหม "เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนได้เคยไปพระธาตุพนมมา..." จำได้ว่าตอนนั้นได้กล้องป๊อกแป๊กตัวแรกมาถือแล้วก็ทำตัวเป็นตากล้องของครอบครัว ถ่ายภาพทุกคนหน้าพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ มองทางไหนก็เห็นแต่คน-คน-คนถือดอกไม้ ควันธูปลอยโอบล้อม พอนึกออกเลาๆ ว่าหลายคนแต่งกายด้วยผ้าพื้นเมือง จำได้อีกด้วยว่ารูปร่างพระธาตุพนมดูแปลกไปจากเจดีย์อื่นที่เคยเห็นมา และที่จำได้แน่กว่าอะไร ก็คือผู้คนต่างมาสักการะองค์พระธาตุอย่างตั้งใจ

ใครๆ เคยว่าไว้ เวลาเปลี่ยนก็มองเห็นอะไรเปลี่ยนไป พระธาตุพนมที่เพิ่งไปเห็นมาอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ดูใหม่กว่าเดิม (มาก) อาจเพราะกำลังอยู่ในช่วงบูรณะ เห็นชัดๆ เลยว่ามีคนห้อยโหนทาสีส่วนยอดของพระธาตุอยู่ มองต่ำลงมาหน่อย พระเจ้าเถอะ !--มีภาพสลักที่เกือบ 20 ปีก่อนไม่ได้สังเกตเห็นอยู่รอบฐานพระธาตุเลยเชียว รวมทั้งประตูหลอก ภาพสลักตัวเกียรติมุข และภาพสลักรูปสิงห์ ส่วนรูปแบบรูปทรงขององค์พระธาตุยังเป็นแบบบัวเหลี่ยมเหมือนเคย มองไปคล้ายดอกบัวที่ถูกจับจีบสี่จีบ แล้วดึงส่วนบนให้ยืดยาวขึ้นไป ถอยออกไปอีกนิดแล้วหันกลับมามองกำแพงแก้วด้านใน มีประติมากรรมนูนต่ำประกอบคำพังเพยอย่าง "อย่าหุงข้าวประชดหมา อย่าปิ้งปลาประชดแมว" อยู่ด้วย นอกบริเวณนี้ออกไปยังมีคำกลอนสอนใจและภาพเตือนสติอยู่ในซุ้มระเบียงทางทิศเหนือและทิศใต้อีก
คงพอจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า พระธาตุพนมเคยล้มพังลงเมื่อปี พ.ศ. 2518 คราวนั้นโบราณวัตถุและกรุสมบัติต่างๆ ภายในองค์พระธาตุจึงกระจัดกระจายปรากฏโฉมให้ใครต่อใครได้เห็น รวมถึงโครงสร้างและยอดเดิมขององค์พระธาตุ และผอูบสำริดที่เชื่อว่าเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วย ใครได้ไปสักการะพระธาตุพนม แล้วอยากชมของเก่าที่ได้จากการขุดค้นซากปรักหักพังครั้งนั้น ก็เข้าชมที่ศูนย์วัฒนธรรมรัตนโมลีศรีโคตบูรได้ทุกวัน ตั้งแต่ 07.30-17.30 น.
ยังไม่รู้ว่าจากนี้ไปจะได้ไปไหว้พระธาตุพนมอีกครั้งไหม และถ้าได้ไปจะเห็นอะไรเพิ่มอีกบ้าง...บางทีการ "มอง" อะไรไม่ครบในคราวเดียวก็อาจมีข้อดีอยู่บ้าง อย่างน้อยก็ตรงที่จะได้รู้สึกเหมือน "เห็น" อะไรใหม่อยู่ทุกครั้งที่ได้ไปพบกันอีก
เรื่อง : วีรวรรณ ภิญญรัตน์   วิจิตต์ แซ่เฮ้ง

อ้างอิง
http://travel.sanook.com/tag/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น